ALL FLASH ARRAY คืออะไร ?
All Flash Array คือ ระบบการจัดเก็บข้อมูลที่ใช้เทคโนโลยี Solid State Disk(SSD) ในการจัดเก็บข้อมูล แทนที่จะใช้การจัดเก็บใน Hard Disk Drive(HDD) แบบเดิม ซึ่งทำให้ All Flash Array ทำงานด้วยความเร็วสูงและมี Latency ที่ต่ำ จึงเหมาะสำหรับการนำไปใช้งานที่ต้องรองรับ Workload ที่หลากหลาย ซึ่งสามารถใช้งานได้ทั้งในระดับของ Application ที่ต้องการระบบการจัดเก็บข้อมูลที่มีประสิทธิภาพสูง หรือการใช้งานกับระบบ Cloud หรือ Virtualization ที่ต้องการความเร็วในการทำงาน โดยในปัจจุบันให้การรองรับทั้ง Block, File และ Object Storage
Why ALL FLASH ARRAY ?
4 เหตุผลที่ทุกองค์กรควรเปลี่ยนมาใช้ ALL Flash Array โดยเฉพาะ PureStorage
1.เร็วกว่า : มีความเร็วมากกว่า HDD ได้ตั้งแต่ 10 ถึง 1,000 เท่า
2.ประหยัดกว่า : ใช้พลังงานและสร้างความร้อนให้ Data Center น้อยกว่า
3.ตอบโจทย์ทางธุรกิจมากกว่า :ด้วยประสิทธิภาพที่สูง ทำให้ความคล่องตัวสูงกว่า
4.คุ้มค่ากว่า : ด้วยราคาที่ลดลง ในคุณภาพที่สูงกว่า READ MORE >>>
PURESTORAGE : Built for FLASH and CLOUD
PURESTORAGE นั้นได้มุ่งมั่นพัฒนาระบบ All Flash Storage สำหรับอนาคต ที่พร้อมด้วยความเร็ว ความจุ ความทนทาน ความง่ายในการดูแลรักษา และตอบโจทย์การนำไปใช้งานทั้งในเชิง IT Infrastructure ที่รองรับการทำงานภายในระบบ Cloud ได้ รวมถึงตอบโจทย์การนำไปใช้งานในเชิงธุรกิจ และมีรูปแบบการลงทุนที่เหมาะสมต่อธุรกิจองค์กรในทุกวันนี้
PURESTORAGE จึงกลายเป็นผู้ผลิตที่มีนวัตกรรมทางด้าน All Flash ที่ครอบคลุมตอบโจทย์ได้อย่างหลากหลาย และทำให้องค์กรสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในรูปแบบต่างๆกันมากมาย เช่น
- เพิ่มความเร็วให้ Application สำคัญขององค์กร
- สร้าง Private Cloud สำหรับใช้งานภายในองค์กร
- รองรับ Virtual Desktop Infrastructure อย่างเต็มตัว
- สำรองข้อมูลและระบบระหว่างสาขาได้เป็นอย่างดี READ MORE >>>
PURESTORAGE มีอะไรบ้าง ?
PureStorage ช่วยให้การเปลี่ยนแปลงของธุรกิจองค์กรเป็นจริงขึ้นมาได้ด้วยวิธีการที่ไม่เคยมีใครคาดถึงมาก่อน เทคโนโลยี Software-driven Storage ของ Pure Storage นั้นได้กลายเป็นตัวขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงเชิงธุรกิจและ IT สำหรับเหล่าองค์กรไปอย่างสิ้นเชิง ด้วยประสิทธิภาพและความคุ้มค่าที่เหนือขึ้นในราคาที่ถูกลงกว่าเทคโนโลยี Storage ในแบบก่อนๆ
ระบบต่างๆของ PURESTORAGE
FLASHARRAY//X
เป็นระบบที่ให้บริการ Block Storage ได้อย่างเอนกประสงค์ เหมาะสำหรับองค์การที่กำลังมองหา All Flash Array เพื่อเร่งความเร็วของ Application, ระบบ Virtualization หรือแม้แต่ Private Cloud ภายในองค์กร
FLASHSTACK CI
คือระบบ All-Flash Converged Infrastructure ที่เกิดจากการประสานเทคโนโลยีรวมกันระหว่าง Pure Storage, Cisco, VMware และ Microsoft เพื่อออกแบบระบบ Data Center สำเร็จรูปอย่างมีประสิทธิภาพ ง่ายต่อการติดตั้ง ดูแลรักษา และบริหารจัดการ
PURE1 PLATFORM
ระบบบริหารจัดการจากศูนย์กลางของ Pure Storage ผ่าน Cloud ทำให้การบริหารจัดการระบบ All-Flash Array ภายในองค์กรที่มีจำนวนมากหรือกระจายอยู่หลายสาขาไม่เป็นเรื่องยากอีกต่อไป
EVERGREEN STORAGE
การลงทุนรูปแบบใหม่สำหรับ All-Flash Array ให้ใช้งานได้ยาวนานกว่า 10 ปี พร้อมการอัพเกรด Software และ Controller ฟรีตามระยะเวลาที่กำหนด รวมถึงยังคิดค่าใช้จ่ายตาม Effective Capacity จริง READ MORE >>>
The Biggest Software Launch in Purestorage ’s History
หลังจากที่ก่อนหน้านี้ PureStorage ได้สร้างความเปลี่ยนแปลงใหม่ให้กับตลาด flash array โดยการนำเสนอ FlashBladeTM สำหรับ unstructured data และ 100% NVMe FlashArray//X สำหรับ structured data workloads ไปแล้วนั้น
จากแพลตฟอร์มข้างต้นนี้ ทำให้วิศวกรของเรามีโอกาสที่จะปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานให้ดียิ่งขึ้นไปอีก โดยการนำเสนอ 25+ ฟีเจอร์ใหม่ล่าสุดอย่างเป็นประวัติการณ์แก่ตลาด และได้ทำการปรับ Tier1 storage เพื่อรองรับ modern cloud workloads, ผสมผสานเทคโนโลยีการประมวลผลแบบคลาวด์, เพิ่มขยาย FlashBlade scale ทำให้ประสิทธิภาพได้ตามต้องการ และเรายังเป็นผู้นำสำหรับ self-driving storage อีกด้วย!
และด้วยนวัตกรรมมากมายที่เราต้องการแนะนำสู่ลูกค้าของ Pure ตามรูปแบบ Evergreen fashion ของเรา โดยบล็อคนี้จะแนะนำภาพรวมว่ามีอะไรใหม่บ้างจากการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่นี้ รวมถึงให้รายละเอียดเชิงลึกเกี่ยวกับแต่ละฟีเจอร์ใหม่เหล่านั้นด้วย
Delivering the Data Platform for the Cloud Era
เป้าหมายของ Pure คือ ช่วยลูกค้าของเราให้สามารถใช้ข้อมูลได้อย่างเต็มที่ โดยใช้วิธีการแบบ end-to-end เพื่อให้ง่ายแก่การจัดการ และยังมี object storage ซึ่งจำเป็นต่อการ run classic applications, test/dev, big data analytics และ modern webscale apps – ซึ่งทั้งหมดนี้ทำงานได้ความเร็วและประสิทธิภาพของ flash
Data platform ของเรามาจากการทำงานร่วมกันของ software Purity, cloud-era flash arrays, FlashArray//X, FlashBlade, และการผสมผสานของ FlashStack, รวมถึงการจัดการอย่างลงตัวโดย Pure1® ซึ่งเป็น SaaS-based management นอกจากนี้ยังพัฒนาให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องจาก Pure1 META AI
วิสัยทัศน์ของเราออกไปเป็น 3 ด้านสำคัญใหญ่ๆด้วยกัน โดยเริ่มจาก a new vision for Tier 1 storage, ซึ่งให้ความน่าเชื่อถือระดับสูงสุด เป็นการผสมผสานกันระหว่างความน่าเชื่อกับเทคโนโลยีล้ำสมัย เรื่องต่อมาจะเป็นการพูดถึง Big Data transforms to Big Intelligence, อย่างที่เราทราบกันดีถึงความยากในการวิเคราะห์ข้อมูลแบบ real-time ซึ่งเรามี AI หรือ machine learning ที่ได้รับข้อมูลเชิงลึกจากฐานข้อมูลมหาศาลของเรา และข้อสุดท้าย วิสัยทัศน์ของ Pure คือการเพิ่มความง่ายในการทำ self-driving storage, โดยใช้เทคโนโลยี advance AI เพื่อให้คุณสามารถทำงานได้ง่ายดายยิ่งขึ้น
The New Tier 1
Storage Tier 1 นั้นขึ้นชื่อด้านความเหนือชั้นของความน่าเชื่อถือ ที่สูงถึง 99.9999% ที่ช่วยเพิ่มทางเลือกสำหรับการกู้ข้อมูลเมื่อเกิดภัยพิบัติ แต่เป็นที่น่าเสียดายที่มันไม่รองรับการเปลี่ยนแปลงอันรวดเร็วของเทคโนโลยี เนื่องจากราคาที่แพง ระบบมีความซับซ้อน และไม่มีประสิทธิภาพ ในทางกลับกัน all-flash arrays ยุคใหม่นั้น ได้ทำการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีด้าน Cloud Storage มานานกว่า 5 ปีแล้ว โดยทำการลดขนาดของข้อมูลลง เพิ่มความง่ายและประสิทธิภาพให้สูงขึ้น และผสมผสานกันของเทคโนโลยี cloud และ NVME Flash ซึ่งต่างกับคู่แข่งอื่นๆของเรา คุณจะพบว่า ทางเลือกของสินค้าและบริการนั้นจะถูกกำหนดให้เลือกเพียง 2 ทางเท่านั้น คือเลือกระหว่างความน่าเชื่อถือสูง หรือสินค้าที่เป็นนวัตกรรมทันสมัย ไม่มีใครให้คุณได้ทั้ง 2 อย่างพร้อมกันแบบเรา
สำหรับ Pure แล้ว เราเชื่อว่าการที่ต้องเลือกทางใดทางหนึ่งนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เราจึงนำเสนอเซตของฟีเจอร์ fully-integrated ซึ่งช่วยเพิ่มมาตรฐานให้แก่ Tier 1 storage
99.9999% Availability: Including Generational Upgrades
เราพึ่งผ่านการฉลองครบ 2 ปีของการนำ FlashArray//M ไป และเราขอนำเสนอว่าเราได้รักษาระดับความน่าเชื่อถือที่ 99.9999% มาได้ 2 ปีต่อเนื่องแล้วตั้งแต่เปิดตัวมา
FlashArray is EvergreenTM ซึ่งหมายถึงว่า นอกจากการทำงานโดยปกติทั่วไปแล้ว เรายังทำงานร่วมกับ software, hardware อื่น และ generational upgrades เหมือนย้ายไปยัง 100% NVMe FlashArray//X
Purity ActiveCluster: True Active/Active Stretch Clusters for All
การ Synchronous replication และ Metro cluster นั้นยังคงต้องคำนึงถึงความน่าเชื่อถือเป็นหลัก แต่น่าเสียดายที่โดยมากมักจะมาควบคู่กับราคาที่แพงมากและการจัดการที่ยุ่งยากซับซ้อนไปด้วย แต่เพราะเราคือ Pure ที่เน้นเรื่องความง่ายในการจัดการ เราจึงขอนำเสนอ ActiveCluster ซึ่งเป็น true active/active stretch cluster solution, fully integrated into Purity และยังคงคอนเซปต์เดิมของเรา no additional cost as an Evergreen upgrade!
ActiveCluster นิยามใหม่ของความง่ายสำหรับการกู้ข้อมูลกรณีฉุกเฉิน, Pure1 SaaS-delivered cloud mediator และขจัดปัญหาของ 3rd site witness ใช้เพียงขั้นตอนง่ายๆ 4 ขั้นตอน และคำสั่งใหม่ 1 คำสั่ง สำหรับ Purity เท่านั้น จึงนับได้ว่าเป็นการทำงานที่ง่ายมากอย่างที่สุด!
Policy QoS: Consolidating Tiers with Confidence
Tier 1 arrays ถูกดีไซน์มาเพื่อการทำงานร่วมกัน และด้วยประสิทธิภาพของ FlashArray เราได้เห็นการเปลี่ยนแปลงจาก multiple tiers เป็นแบบเดี่ยว และมีประสิทธิภาพสูง แต่ไม่ใช่ว่าทุกๆ workload จะถูกสร้างมาเท่าๆกัน เพราะในบางครั้งเราต้องการให้บาง workload มีประสิทธิภาพ I/O สูงสุด QoS ได้ถูกใช้แก้ปัญหาเหล่านี้มาอย่างยาวนาน แต่มันก็มีข้อด้อยตรงที่ยุ่งยากและซับซ้อน เช่น ความผิดพลาดในการตั้งค่า config ซึ่งจะเห็นว่า QoS น่าจะสร้างปัญหามากกว่าช่วยแก้ปัญหาซะอีก Purity ที่เราปล่อยออกมาก่อนหน้านี้ เราได้แนะนำให้ Always-on QoS เพื่อป้องกันจาก noisy neighbors และเวอร์ชั่นล่าสุดนี้ QoS ได้มีฟีเจอร์ใหม่ๆออกมามากมาย :
และจากนโยบายตอนนี้ QoS ได้เพิ่มความสามารถในการ configure classes ง่ายในการแยกระหว่าง Bronze, Silver หรือ Gold workloads. หรือนโยบายที่จะช่วยกำหนดและควบคุมประสิทธิภาพสำหรับการทำงาน per-Volume basis ที่เหมาะสำหรับผู้ให้บริการคลาวด์เซอร์วิส
VMware VVols: Easy Cloud Automation
VVols and VMware’s storage policy-based management (SPBM) ได้ให้คำมั่นในการที่จะพัฒนาอย่างก้าวกระโดดสำหรับการจัดการการสำรองข้อมูลสำหรับ vSphere-based บนคลาวด์ VVols ยอมให้ FlashArray สามารถถูกมองเป็นระดับ per-VM ได้, ทำให้สามารถใช้งาน snapshot ได้อย่างทรงประสิทธิภาพ, replication, QoS, และสามารถใช้ migration technology เพื่อที่จะทำงานแบบ per-VM ในระดับความละเอียดของข้อมูลได้ แต่ขณะนี้การนำ VVols มาปรับใช้งานในระดับอุตสาหกรรมได้รับความนิยมลดลงแล้ว อันเนื่องมาจากการจัดการและซัพพอร์ทที่ยุ่งยาก ดังนั้นอาจกล่าวได้ว่าถึงเวลาแล้วที่จะทำการทดลองใช้ VVols บน Pure
และเราจะขอย้ำอีกครั้ง ทุกอย่างของ Pure นั้นเน้นไปที่ความง่ายในการใช้งาน สำหรับ Purity ตอนนี้สามารถฝัง VASA Provider เพื่อที่จะทำให้ VVols สามารถทำงานได้ง่าย โดยสามารถทำการ implement ได้ภายใน 5 นาที, FlashArray ทำให้ VMFS → VVol migration ได้แทบจะทันที และ VVols ยังเปิดกว้างให้สามารถเข้าถึงได้อย่างสะดวกสำหรับ vSphere
Purity CloudSnap: Extending Purity’s Snapshots to FlashBlade, NFS, and the Public Cloud
ตอนนี้ Purity สามารถ snapshots อย่างทรงพลังได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยรองรับการใช้งานหนัก สามารถ backup, recovery หรือ test/dev ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และ Purity’s built-in replication รองรับ snapshots เพื่อที่จะใช้สำหรับกรณี recovery ข้อมูล แต่มีผู้ใช้งานจำนวนมากขึ้นก็ได้มีความสนใน ถึงสามารถในการขยาย Purity’s snapshots ที่ราคาถูกลงสำหรับทำ offsite retention – ดังนั้นในตอนนี้ Purity snaps ดูเหมือนว่าจะขยายไปยัง host ของ new off-FlashArray – โดยทุกๆการจัดการเป็นไปตาม Purity’s protection policies
เพื่อที่จะทำให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น Purity Snap ตอนนี้ได้รวม Portable Snapshot format แบบใหม่เข้าไปด้วย ซึ่งคือ snapshot ที่สามารถ embeds recovery metadata ของตัวเองได้ โดยนอกจากนี้ Snaps สามารถย้ายไปยัง FlashBlade ได้ด้วย ซึ่งก็เหมือนกับ generic NFS ในกรณีที่เรามี NetApp แบบเก่า หรือมี Data Domain ที่เราต้องการจะใช้งานอยู่ นอกจากนี้เรายังขอแนะนำ CloudSnap – ซึ่งมีความสามารถในการช่วย take snapshots เหล่านี้ไปยัง Public Cloud เพื่อที่จะทำการ Backup, DR, migration หรือ development use cases และท้ายสุดนี้ เราได้สร้าง Open DeltaSnap API เพื่อรองรับ data protection vendors ที่แตกต่างกัน เพื่อที่จะประสานงานกันกับ Purity ในการจัดการและย้าย snapshots ในขณะที่ยังรักษาเนื้อที่ไว้อย่างมีประสิทธิภาพ
Purity Run – Run YOUR CODE on FlashArray as an Open Platform
เราจะไม่เรียกสิ่งเหล่านี้ว่า hyper-converged แม้ว่าบางทีคุณอาจจะคิดว่าเป็นเช่นนั้น! สำหรับ Purity Run นั้นเกี่ยวข้องกับการสร้าง open development platform – เพื่อให้ลูกค้าของเราสามารถที่จะรวม FlashArray เข้าไปกับ webscale architectures ของพวกเขาได้ในรูปแบบใหม่ที่น่าสนใจ และเราก็อดใจรอไม่ไหวที่จะทราบว่าคุณก็ได้นำไปใช้ด้วยเช่นกัน
ถ้าหากคุณต้องการที่จะ implement a custom storage/messaging protocol แต่ว่า application ของคุณสามารถสื่อสารกับ FlashArray ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพหรือไม่? และถ้าหาก Edge device ของคุณต้องการที่จะวิเคราะห์ข้อมูล IoT ก่อนที่จะส่งกลับไปล่ะ? หรือถ้าหากคุณต้องการที่จะทำการ analytic micro-services ใน data pipeline ของคุณไปยัง storage เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานขึ้นมา จะทำได้หรือไม่? และถ้าหาก storage array ของคุณสามารถ snap-in directory ไปยัง Docker/Kubernetes to host ได้ด้วยตัวเองล่ะจะดีหรือไม่? ทั้งหมดนี้เป็นไปได้ด้วย Purity Run เพราะ Run สามารถนำส่งชุดของ CPU และ Memory resources ด้วยประสิทธิภาพและความปลอดภัยอย่างสูงสุด เพื่อที่จะสามารถให้คุณ run custom VMs และ containers right on FlashArray in a highly-available architecture
Windows File Services for Purity: Best-of-breed SMB and NFS come to FlashArray!
Purity Run อนุญาติให้ผู้ใช้งานและเราขยายการใช้งาน FlashArray ในทิศทางที่น่าสนใจ โดยมากเราจะได้รับการเรียกร้องจากผู้ใช้งานในเรื่องของการทำ file consolidation onto FlashArray ซึ่งโดยมากผู้ใช้งานมักจะมีการทำ primarily-block deployment แต่ก็มีข้อมูลบางอย่างที่ผู้ใช้งานยังคงต้องการเก็บไปยัง platform และจากที่เราได้ทำการสำรวจตลาดมา พบว่าหากต้องการทำ SMB implementation และต้องการความแข็งแกร่งของระบบและความง่าย ผู้ใช้งานมักจะนึกถึง Windows File Server ซึ่งเราก็เป็น partnership กับ Microsoft โดยการนำ WFS ไปกับ FlashArray
Large-Scale NFS ของเรา offering FlashBlade แต่สำหรับการทำ consolidated/unified deployment, WFS ได้เพิ่มไฟล์เซอร์วิสหลักไปยัง FlashArray และ snaps ไปยัง Microsoft management ecosystem โดย WFS สำหรับ Purity นั้นได้รับการดูแลอย่างเต็มรูปแบบโดย Pure และยังเป็นโซลูชั่นชั่นในอุดมคติสำหรับ file sharing, home directories, collaboration และ VDI user files นอกจากนี้ยังช่วยให้คุณ leverage Microsoft Windows Server license agreement อีกด้วย
Extending our NVMe Leadership: DirectFlash Shelf and NVMe/F Preview
เมื่อไม่นานมานี้เราได้แนะนำ FlashArray//X และโมดูล software-defined DirectFlash ซึ่งเป็น 100%-NVMe AFA สำหรับ mainstream deployments เป็นเจ้าแรกของตลาด สิ่งที่น่าสนใจอย่างยิ่งของ FlashArray//X ก็คือ ได้ทำการยกระดับความสามารถของ Tier 1 enterprise workloads, และยังช่วยให้สามารถกำหนดเป้าหมายสำหรับ webscale DAS flash ด้วยการทำ top-of-rack deployments ได้อีกด้วย หลังจากที่เราแนะนำโซลูชั่น //X ออกสู่ตลาดไปนั้น เราได้รับการตอบรับอย่างดี และได้รับคำถามบางส่วนจากผู้ใช้ อาทิเช่น การที่จะขยาย //X beyond the chassis ต้องทำอย่างไร หรือ หากต้องการให้ NVMe/F ต่อเข้ากับโฮสท์ จะทำเช่นไร ซึ่งเราจะขออธิบายดังต่อไปนี้
อย่างแรก, โซลูชั่น DirectFlash Shelf (DFS) โดย DFS ได้ขยาย NVMe architecture to expansion shelves โดยการต่อกับ //X chassis ผ่านทาง native NVMe/F 50 Gb/s Ethernet และ DFS ยังเดลิเวอร์ 28 DirectFlash Modules in a 3U expansion chassis, providing up to 512 TBs of raw flash (1.5 PBs usable) in 3U when using our 18.3TB DirectFlash Module โดย DFS จะออกสู่ตลาดในไตมาสที่ 4 นี้ แต่สำหรับ NVMe FlashArray//X แล้วล่ะก็ คุณสามารถเริ่มตอนนี้ได้เลย !
และนอกจากนี้สำหรับ //Accelerate นั้น เรากำลังทำทดสอบร่วมกับ Cisco เพื่อโชว์ความสามารถของ end-to-end NVMe ในการเชื่อม Cisco UCS Server ผ่านทาง NVMe-over-Fabrics leveraging RoCEv2 at 40 Gb/s to a FlashArray//X ซึ่งการทดสอบนี้ช่วยในการเตรียม all-NVMe path from server to shared flash chips
เราได้เห็นเคสที่น่าสนใจมากมายจากผู้ให้บริการคลาวด์ที่ทำงานกับเรา รวมถึงลูกค้าผู้ใช้บริการ SaaS เกี่ยวกับโซลูชั่นการทำงานร่วมกันดังกล่าว ที่ช่วยเป็นการกำจัดข้อจำกัดต่างๆ รวมถึงราคาที่แพงของ server-DAS flash และ graduating to top-of-rack storage ลองคิดถึงการสร้างคลาวด์โดย stamping-out a rack with this level of density, providing all the scalable block, file, and object services your applications need….we have customers doing this today:
The New Tier 1…Delivered!
ทุกๆนวัตกรรมที่คุณต้องการสำหรับการสร้าง cloud-scale applications หรือ modernize your classic applications ในอนาคตมีอยู่ใน new Tier 1 นี้แล้ว โดยนอกจากนี้ยังได้ยกระดับความง่ายและความน่าเชื่อถือให้ก้าวขึ้นสูงไปอีกระดับตามไปด้วย
เรานำเสนอทุกสิ่งที่กล่าวมานี้ทั้งหมด ในรูปแบบที่เรียกว่า Evergreen ซึ่งได้พัฒนาขึ้นสำหรับลูกค้า FlashArray ของเราในปี 2017 โดยทุกๆการอัพเกรดที่เกิดขึ้นนี้เราไม่คิดค่าใช้จ่ายเลยแม้แต่บาทเดียว ซึ่งสามารถดูรายละเอียดของสิ่งที่พัฒนาและอัพเกรดขึ้นให้นี้ตาม timeline ด้านล่าง โดยทั้งหมดนี้จะอยู่ใน set of Purity//FA 5.x ที่ปล่อยออกมา
ซึ่งทั้งหมดที่เห็นนี้เป็นเพียงแค่ 1/3rd ส่วนแรกที่เรานำเสนอให้คุณทราบเท่านั้น อย่าลืมติดตามต่อใน FlashBlade และ Pure1!
From Big Data → Big Intelligence
ขณะนี้เรากำลังอยู่ในช่วงเวลาที่น่าสนใจที่สุดในโลกของข้อมูล เรากำลังเริ่มเรียนรู้และใช้ประโยชน์จากดาต้าต่างๆที่มี รวมถึงความพยายามที่จะวิเคราะห์ข้อมูลแบบเรียลไทม์ และปฏิเสธไม่ได้ว่า AI และ Machine Learning-based จะมีความสำคัญขึ้นและถูกนำมาใช้ทดแทนการทำงานของมนุษย์ ซึ่งการทำงานแบบ Big Intelligence นี้จะเกี่ยวข้องกับการสำรองข้อมูลอย่างแน่นอนทั้งในเรื่องขนาด ความเร็ว และประสิทธิภาพ
สำหรับ data applications แบบใหม่นี้ สร้างขึ้นบนพื้นฐานของ massively parallel architecture โดยใช้ความสามารถของ multi-core CPUs and GPUs แต่เทคโนโลยีเหล่านี้กำลังเป็นปัญหา เนื่องจากเป็นเทคโนโลยี storage แบบเก่า นี่จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้เราสร้าง FlashBlade ขึ้นมา
เราเริ่มจากนำเสนอ FlashBlade // Accelerate ไปเมื่อปีที่แล้ว และตอนนี้ FlashBlade ก็ไปได้ไกลถึงขนาดใช้กับ AI supercomputers, ใช้ในการควบคุมรถแข่งที่เร็วที่สุด, massive webscale architectures รวมถึงช่วยดีไซน์ จำลอง การผลิตเครื่องบินรุ่นใหม่ รถไฟ รถยนต์ รวมถึงจรวดอีกด้วย
สิ่งที่เหมือนกันสำหรับการใช้งานเหล่านี้ก็คือ เป็นการทำงานที่ต้องการความสามารถสูงกว่า ขนาดข้อมูลจำนวนมากกว่า และความยืดหยุ่นที่สูงกว่าปกติ ดังนั้นวันนี้เราจึงได้นำเสนอการอัพเดทหลักทางด้านซอฟท์แวร์ของ FlashBlade, Purity สำหรับ FlashBlade 2.0
75-Blade Scale: 5X Bigger, 5X Faster
FlashBlade’s ได้พัฒนาไปอย่างมาก ทั้งในด้านของการพัฒนาการทำงาน รวมถึงการพัฒนาความเร็วให้สูงขึ้นตามที่ผู้ใช้งานร้องขอ ซึ่ง FlashBlade 1.0 ของเรานั้นได้พัฒนาขึ้นมาเพื่อรองรับ true linear scale-out ได้ถึง 15 blades และรองรับความเร็วสูงถึง 5X!
ความมหัศจรรย์ของ FlashBlade นี้ก็คือ true linear scale – การเพิ่ม blades นั้นเป็นการเพิ่ม capacity, I/O performance, metadata performance, and host connectivity bandwidth ดังนั้นสำหรับการพัฒนานี้เราได้เริ่มจากความประทับใจไปสู่ความสมบูรณ์แบบอย่างไม่น่าเชื่อ : 8PBs in a single namespace, 75 GB/s read, 25 GB/s write, and 7.5M IOPS
และถ้าหากคุณจำได้ ในปีที่แล้วเราได้ให้คำสัญญาไว้สำหรับ 1M NFS Ops, คุณจะเห็นว่า I/O performance ได้พัฒนาให้เร็วขึ้นถึง 5X จากที่เราได้ทำทั้ง scaled-out และ ทำการพัฒนาซอฟท์แวร์ของเรา A new 100 Gb/s ได้พัฒนาและ fully-managed software-defined fabric ไปสู่อีกขั้น แต่คุณไม่ต้องกังวลไปสำหรับกรณีที่คุณไม่ได้มี racks ที่ขนาดกว้างมากๆ เพราะว่ามีขนาดสำหรับ rack-mount มาตรฐานด้วยเช่นกันในกรณี 5 unified 15-blade chassis:
และเราขอย้ำอีกครั้งว่า FlashBlade นั้นสร้างมาเพื่อความง่ายอย่างแท้จริง คุณสามารถขยายเพิ่มได้ครั้งละ 1 blade โดยเริ่มจาก 7 blades ไปจนถึง 75 blades
Fast Object: Powering Tomorrow’s Webscale Applications
เนื่องจาก Cloud storage เป็นพื้นฐานของ object storage เราได้แนะนำให้ developers ยุคใหม่ๆนั้น คำนึงถึงหลักการ “object first” เป็นหลักเวลาที่จะดีไซน์อะไร แต่เพราะในปัจจุบัน object storage นั้นเติบโตไปอย่างช้า เหมาะสำหรับการใช้งานที่เน้นไปที่ความถูก ใช้งานเชิงลึกและการใช้งานที่ไม่อาศัยความเร็วมากนัก แต่สำหรับ FlashBlade นั้นเรากำลังแนะนำการใช้งานระดับ Fast Object – ที่พร้อมแล้วสำหรับ new set of high-performance data และ Cloud
เมื่อเราพูดว่าเร็ว เราหมายถึงความเร็วมากๆ ซึ่งมันเร็วขนาด 10 เท่าของ cloud object stores และหนึ่งในผู้ใช้บริการ webscale beta ของเราพบว่ามันเร็วกว่าได้ถึง 100เท่า ของ on-prem disk-based object ที่ลูกค้าใช้อยู่ ที่ indexing 1M ของ image objects ของพวกเขา
ส่วนที่สร้างให้ FlashBlade Object นั้นสามารถทำความเร็วได้สูง เป็นเพราะ FlashBlade เองถูกสร้างขึ้นมาเพื่องาน object และโดยแท้จริงแล้ว FlashBlade ถูกสร้างบน ultra-scalable back-end object ที่ถูกเก็บบนพื้นที่ของตัวเอง และในตอนนี้ทั้ง File (NFS/SMB) และ Object protocols ได้ทำงานร่วมกันสำหรับ native object store ไม่ได้ทำงานซ้อนกันเป็นชั้นๆอันหนึ่งเหนืออีกอันแบบ retrofit แต่อย่างใด
Broadening FlashBlade Use Cases: Continued Steady Feature Execution and a New Mid-Sized Blade
เพิ่มเติมในส่วนที่น่าสนใจของ large-scale simulation, analytics, webscale object, and AI/ML ที่เราได้กล่าวถึงไปข้างต้น เรากำลังจะได้เห็นการพัฒนาของ FlashBlade ที่จะทำงานข้ามไปยังเคส mainstream ที่หลากหลาย อย่างเช่น healthcare PACS imaging, large-scale software development, financial analysis, data warehousing, media/game production, หรือแม้กระทั่งกล้องตรวจจับของตำรวจ!
คีย์หลักสำหรับการขยาย FlashBlade คือการเพิ่มเติมในส่วนของฟีเจอร์ enterprise ให้ตรงกับความต้องการของ IT admin ในบริษัท โดยสำหรับ Purity//FB 2.0 นั้น เราได้ปล่อยฟีเจอร์ออกมาเพื่อรองรับการทำงานต่างๆดังต่อไปนี้
Native SMB and HTTP ซัพพอร์ทการขยายของ protocol, IPv6 ที่ช่วยสำหรับการทำ modern networking, NLM ที่ยอมรับ NFS access สำหรับ clustered applications, LDAP ที่ช่วยลดความยุ่งยาก และสร้างความมั่นใจสำหรับ administration, และที่สำคัญที่สุดคือ การทำ snapshots เพื่อช่วยในการ quick backup/recovery of file systems
5X scale, 5X performance, Fast Object, and Enterprise feature maturation…that’s Purity for FlashBlade 2.0!
Self-Driving Storage
เราได้ทราบกันดีอยู่แล้วถึงความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีเกี่ยวกับรถยนต์ที่ขับเคลื่อนอัตโนมัติโดยไร้คนขับ ซึ่งมันทำให้เรานึกถึงความเกี่ยวเนื่องของ AI เทคโนโลยีที่จะมามีบทบาทกับโลกของการสำรองข้อมูลด้วยเช่นกัน
โดยหากเรามองถึงวิวัฒนาการที่มีของการสร้างรถยนต์ไร้คนขับ เราจะพบ 3 ข้อสำคัญดังต่อไปนี้
- การพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง จะส่งผลให้เราได้ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีอัตโนมัตินี้สำหรับการสร้างความปลอดภัย และเพิ่มความสะดวกสบายสำหรับการใช้รถยนต์ไร้คนขับต่อไป
- ส่วนที่ยากไม่ใช่การขับรถ แต่เป็นการตรวจรู้สภาพแวดล้อมโดยรอบ รวมถึงเข้าใจ เพื่อที่จะหลีกเลี่ยงปละป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นได้
- โดยมากแล้วเป็นเรื่องของปัญหาทางด้านข้อมูล – เนื่องด้วยมันมีความเป็นไปได้ที่จะไม่ใช่การเข้าใจการขับเคลื่อนของรถคันใดคันหนึ่ง แต่หมายถึงการเข้าใจระบบของรถทุกๆคันในสภาพแวดล้อมโดยรวม และยิ่งถ้าหากมีการ link ข้อมูลเหล่านั้นเข้าด้วยกันแล้ว ก็จะยิ่งสร้างความทรงพลังมากยิ่งขึ้น
จากความเกี่ยวเนื่องดังกล่าว อย่างแรก – เราได้เข้าใจถึงเส้นทางการพัฒนาการสำรองข้อมูลแบบอัตโนมัติ และเพราะว่า Pure เราได้เริ่มมาตั้งแต่แรกสำหรับการพยายามทำให้ทุกอย่างเป็นเรื่องง่าย ลดความซับซ้อนในการทำงานของผู้ใช้งาน และให้ arrays ทำการตัดสินใจได้ด้วยตัวเอง ต่อมา – ส่วนที่ยากสำหรับแอดมินในการดูแลระบบการสำรองข้อมูลไม่ใช่การจัดการเกี่ยวกับ array แต่เป็นการดีลกับโลกของ array ในด้านของความเปลี่ยนแปลงและการคาดคะเนความไม่แน่นอนของ workloads ต่างๆ และอย่างสุดท้าย – ที่ Pure เนื่องจากเราเป็น global storage vendor เราจึงมีความสามารถที่จเห็นและเข้าใจ workloads ในงานรูปแบบต่างๆผ่านทางผู้ใช้งานของเรา และนั่นทำให้เราเรียนรู้และช่วยพัฒนางานของคุณได้ดียิ่งขึ้นด้วยเช่นกัน
และวันนี้เราขอนำเสนอ Pure1 META – ซึ่งเป็น AI Engine ที่ช่วยในการทำนาย และช่วยพัฒนาการจัดการข้อมูล, automate รวมถึง support storage ด้วย
Pure1 META นั้นได้เริ่มและพัฒนาบนพื้นฐานของข้อมูล เป็นเวลานานกว่าปีแล้วที่ Pure ได้มุ่งเน้นไปในด้านของการเป็นบริษัททางด้าน IoT เราได้สร้างเครือข่ายระดับโลกกว่า 1,0000s ของ connected arrays เรานำเสนอประสิทธิภาพและการทำงาน metadata แก่ Pure มาเป็นเวลานาน และเราได้ทำงานอย่างหนักเพื่อที่จะทำให้ข้อมูลเหล่านั้นมีประโยชน์สูงสุดต่อลูกค้าของเรา รวมถึงวิศวกรของเราในการที่จะพัฒนาสินค้าให้ดี และตรงกับความต้องการของผู้ใช้งานมากยิ่งขึ้น โดย Pure1 META ตอนนี้ได้รวบรวมกว่า 1 Trillion data points/day อย่างต่อเนื่องมาเก็บเข้าสู่คลังข้อมูลของเรา
จุดมุ่งหมายของเราคือการค้นพบปัญหาการใช้งานให้ได้ก่อนที่จะเกิดขึ้นจริง และสามารถที่จะตรวจจับการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมที่อาจจะก่อให้เกิดปัญหาขึ้นได้อย่างอัตโนมัติ และหลังจากที่เราได้ปล่อยออกไปสู่ตลาดจนถึงปัจจุบัน เราได้ตรวจพบและป้องกันไปแล้วกว่า 500 Sev1 เหตุการณ์ที่เป็นไปได้ที่อาจจะเกิดขึ้น และการตามรอยการใช้งานของเราได้ฉลาดขึ้นเรื่อยๆเช่นเดียวกัน ทุกวันที่การตามรอยการใช้งานได้สร้างขึ้นโดยมนุษย์และสร้างขึ้นอยู่บนพื้นฐานของสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว และ Pure1 META’s AI ได้เพิ่มทางเลือกใหม่ ยอมให้ Machine Learning intelligence เพื่อที่จะหาปัญหาและสร้าง data correlation ซึ่งอาจจะไม่ทันสังเกตุเห็นได้โดยมนุษย์ ซึ่งนี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งเพียงเล็กน้อยที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
แต่ส่วนที่น่าสนใจมากๆสำหรับ Pure1 META ก็คือ โอกาสที่จะเข้าใจ workloads ได้ดียิ่งขึ้น ทั้งในด้านของความจุและประสิทธิภาพ
Performance sizing เกือบดูเหมือนว่าจะเป็นไปไม่ได้ เนื่องจากมีค่าตัวแปลมากมายที่ต้องทำความเข้าใจ (เช่น IOPS, bandwidth, latency, IO mix, locality, reducibility เป็นต้น)
ดังนั้นหากเรามี array และต้องการจะรู้ว่ากำลังจัดการกับ workloads เท่าไหร่ หรือต้องใช้เท่าไหร่จึงจะพอดี หรือว่าหากต้องการทำจะต้องทำอย่างไร ซึ่งปัญหาเหล่านี้เป็นปัญหาที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการใช้ Machine Learning ในการช่วยแก้ไข เราทำให้ Pure1 META ทำงานได้อย่างอิสระบนฐานข้อมูลของเรากว่า 100,000s individual workloads หากมองไปยังความสามารถของข้อมูลที่เราเก็บไว้ที่ Pure1 จะพบว่า Pure1 META ได้สร้างรูปแบบสำหรับการใช้ข้อมูลตัวแปลอันเกี่ยวกับ IOPS, Bandwidth, Latency เป็นที่เรียบร้อยแล้วซึ่งเป็น Workload DNA
โดยตัว Workload DNA นี้สามารถใช้เพื่อทำความเข้าใจความเหมาะสมของแต่ละตัวแปลสำหรับ workloads ที่หลากหลายจาก Storage arrays ที่แตกต่างกัน คุณอาจมีคำถามที่สงสัยเช่น workload array ที่เราใช้อยู่จะเติบโตไปเป็นแบบไหน? ถ้าหากเราใช้งานเต็ม capacity จะเป็นอย่างไร? workload อันใหม่ที่เราจะทำ จะทำงานได้ดีบน array หรือไม่? ซึ่งทุกคำถามข้างต้นนี้ สามารถตอบได้โดย Pure1 META แล้วในตอนนี้
เราขอแนะนำ Pure1 tool ที่เรียกว่า Workload Planner ดังรายละเอียดต่อไปนี้
Workload Planner ช่วยให้คุณทำนายการเติบโตของ workload ที่ใช้ในการทำงานในอนาคตได้ง่ายๆ โดย Pure1 META ได้ใช้ Workload DNA นี้เพื่อให้เข้าใจการทำงานแต่ละ workloads ของคุณ ซึ่งจะใช้ข้อมูลจากฐานข้อมูลที่มีอยู่ทั่วโลกของเรา อันจะส่งผลให้มีความแม่นยำมากขึ้นในการทำนายประสิทธิภาพและการเติบโตของจำนวนความจุที่ต้องใช้
Pure1 META เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นที่น่าสนใจของทิศทางการเติบโตสำหรับ Self-driving storage โดยเป็นการเข้าใจการทำงานของ workloads ต่างๆ ทำให้เราสามารถทำนาย และจัดการได้อย่างทันท่วงที เราสามารถเพิ่มประสิทธิภาพ และทำให้ storage ข้อมูลของเรามีความน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้นและมาพร้อมการจัดการที่ง่ายดายอย่างแท้จริง
Global Dashboard: One View into All Your FlashArrays and FlashBlades
Pure ยังคงมุ่งมันและตั้งใจที่จะทำให้ข้อมูลของ Pure1 สามารถใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ผู้ใช้งาน และด้วยฐานข้อมูลของลูกค้าของเรานั้นเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งตอนนี้ผู้ใช้งานมีตั้งแต่ 10s to even 100s of Pure arrays และในวันนี้เราได้แนะนำ new Global Dashboard ซึ่งได้รวบรวมข้อมูลความจุและความสามารถของ flash ในทั่วทุกมุมโลกมาไว้ด้วยกัน
ซึ่ง Global Dashboard นี้ เหมือนกับ Pure1 ที่เป็น Saas delivered
Summary & Release Timings
หวังเป็นอย่างยิ่งว่าตอนนี้เราจะสามารถทำให้คุณมองเห็นภาพรวมของเราแล้วว่าเราได้ทำการเปลี่ยนแปลงอะไรไปบ้าง วันนี้เราได้นำเสนอฟีเจอร์ที่จะค่อยๆนำเสนอออกมาตลอดระยะเวลาหลายเดือนต่อจากนี้ ซึ่งก็คือ Purity//FA 5.x และ Purity//FB 2.x และรายละเอียดเพิ่มเติมที่มากขึ้นของแต่ละฟีเจอร์ตามด้านล่าง